ความหมายของวรรณคดี
คำว่า วรรณ หมายถึง สี ผิว ชนิด ส่วนคำว่า คดี แปลว่า แนวทาง ดังนั้น คำว่าวรรณคดีจึงหมายถึง แนวทางของหนังสือ
โดยพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานได้ให้ความหมายของคำว่าวรรณคดีเอาไว้ว่า หนังสือที่ได้รับการยกย่องว่าแต่งดี มีผู้ให้ความหมายวรรณคดีพอสรุปสังเขปได้ดังนี้
๑. เป็นหนังสือดี อ่านได้โดยไม่เสียประโยชน์ ไม่เป็นเรื่องชักจูงความคิดผู้อ่านไปในทางที่ไม่เป็นแก่นสาร
๒. เป็นหนังสือแต่งดี ใช้วิธีเรียบเรียงอย่างใดๆก็ตามแต่ต้องเป็นภาษาไทยอันดีถูกต้องตามหลักภาษาศาสตร์
๓.เป็นบทประพันธ์อันประกอบด้วยศิลปะแห่งการนิพนธ์และเนื้อเรื่อง
อันมีอำนาจดลใจผู้อ่านให้รู้สึกร่วมได้
ลักษณะของวรรณคดี
วรรณคดีมีลักษณะทั่วไปดังนี้
๑. เนื้อหาเหมาะกับรูปแบบของคำประพันธ์ กล่าวคือกวี ควรจะให้เหมาะสมกับเนื้อหา เช่น การเทิดทูนบุคคลหรือชื่นชมบ้านเมือง ควรใช้คำประพันธ์ประเภทลิลิตหรือคำฉันท์
๒. ภาษาไพเราะและประณีต ซึ่งวรรณคดีไทยจะมุ่งความงามของอรรถรสเป็นสำคัญ มิใช่มุ่งแสดงชีวิตโดยตรงอย่างเดียว ฉะนั้น การใช้ภาษาหรือถ้อยคำจึงต้องประณีต กินใจ โดยเฉพาะคำประพันธ์มักนิยมเล่นสัมผัสหรืออุปมาอุปไมยเพื่อทำให้เกิดจินตนาการและความไพเราะ
๓. ให้คุณค่าทั้งทางสุนทรียภาพและสารประโยชน์ทั้งทางส่วนบุคคลและสังคม
๔. ให้ความบันเทิงใจ ก่อให้เกิดความสะเทือนอารมณ์และให้จินตนาการ
ประโยชน์ของวรรณคดี
การเรียนวรรณคดีทำให้เราได้ศึกษาสิ่งต่างๆ ได้สัมผัสเรื่องราวที่เกิดขึ้นในแต่ละยุคสมัยโดยผ่านทางกวี สภาพสังคม วัฒนธรรม ศึกษาลักษณะคำประพันธ์ที่กวีใช้
๑. วรรณคดีช่วยให้ความรู้หลายด้านที่จะช่วยสร้างเสริมสติปัญญาให้แก่ผู้อ่าน เช่นทางด้านภาษาจะทำให้ผู้อ่านมีความรู้ด้านความหมายของคำ การใช้ภาษาของแต่ละยุคสมัย แต่ละภาค แบบแผนของฉันทลักษณ์แต่ละประเภท ทางด้าน ประวัติศาสตร์ พงศาวดาร ตำนาน นิทาน เรื่องราวพื้นเมืองต่างๆ
๒. วรรณคดีให้คุณค่าทางอารมณ์ต่างๆ เพราะวรรณคดีเป็นเรื่องศิลปะของการถ่ายทอดความรู้สึกและอารมณ์ ทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์คล้อยตาม ได้รับรสสุนทรียภาพของวรรณคดี
๓. วรรณคดีจะช่วยสะท้อนภาพสังคม สภาพชีวิต วัฒนธรรม และความเป็นอยู่ของบรรพบุรุษ ขนบธรรมเนียมประเพณี ความเชื่อ และค่านิยมต่างๆ กวีจะสอดแทรกอยู่ในวรรณคดีทั้งสิ้น
๔. วรรณคดีช่วยขัดเกลาจิตใจและยกระดับจิตใจของผู้อ่านให้สูงขึ้น ช่วยจรรโลงจิตใจ ทำให้มนุษย์เห็นตัวอย่างของความทุกข์ ความสุข และปัญหาชีวิตต่างๆ ทำให้ผู้อ่านมองชีวิตด้วยความเข้าใจมากขึ้น
แหล่งที่มา
รามเกียรติ์
ผู้แต่ง :
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ ๑)
จุดมุ่งหมาย :
1. เพื่อเป็นการรวบรวมเรื่องรามเกียรติ์เข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ให้มีความสมบูรณ์เป็นการสมโภชพระนคร
และยังเป็นการประกาศพระเกียรติยศของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชด้วย
2. เพื่อใช้เป็นบทละครสำหรับเล่นละครใน และใช้อ่านเพื่อความบันเทิงของประชาชน
3. เพื่อเป็นคติธรรมใช้สอนประชาชนทั้งด้านความกล้าหาญ ความซื่อสัตย์ ความกตัญญูกตเวที และคุณธรรมต่าง ๆ
รูปแบบการประพันธ์
รูปแบบการแต่ง :
1. กลอนแต่ละวรรค มีจำนวนคำระหว่าง 6-8 คำ
2. กลอนบางตอนใช้รูปแบบของกลบท เช่น บทชมรถ ชมพาหนะ ชมนาง เป็นต้น
เนื้อเรื่อง :
ประกอบด้วยเรื่องราวน่ารู้ต่างๆ เริ่มด้วยหิรัญยักษ์ม้วนแผ่นดิน และกำเนิดตัวละครสำคัญๆทั้งฝ่ายยักษ์ ลิง และมนุษย์ แล้วจึงดำเนินเรื่องการสู้รบระหว่างพระรามกับทศกัณฐ์ซึ่งต้องสู้รบกันหลายครั้งกว่าจะได้ชัยชนะเด็ดขาด ประกอบด้วยเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นและเรื่องแทรกที่สนุกสนานบันเทิง เสริมด้วยอารมณ์ขัน ทำให้เรื่องราวมีสีสันเหมาะสมกับการแสดงละคร ทั้งยังให้คติธรรมที่ว่า ธรรมย่อมชนะอธรรม
คุณค่า :
ยกย่องความซื่อสัตย์ ความกตัญญู
แหล่งที่มา
พระอภัยมณี
ผู้แต่ง : สุนทรภู่
เนื้อเรื่องย่อ :
เนื้อเรื่องของนิทานคำกลอนเรื่องพระอภัยมณีกล่าวถึงเรื่องราวชีวิตและการผจญภัยที่สนุกสนาน ตื่นเต้น มีทั้งสุขและทุกข์ของตัวเอก คือ พระอภัยมณี ซึ่งมีลักษณะที่แปลกใหม่แตกต่างไปจากตัวเอกในเรื่องอื่นๆ ที่คนไทยเคยได้ยินได้ฟัง เช่น พระอภัยมณีเดินทางเข้าป่าเพื่อศึกษาหาความรู้เยี่ยงกษัตริย์ในสมัยนั้น แต่มิได้เรียนวิชาศิลปศาสตร์ กลับเรียนวิชาเป่าปีซึ่งสามารถสะกดคนฟังให้หลับได้ ศรีสุวรรณซึ่งเป็นพระอนุชาของพระอภัยมณีก็เลือกเรียนวิชากระบี่กระบอง การผจญภัยที่ตื่นเต้นของพระอภัยมณี เริ่มด้วยพระอภัยมณีถูกนางผีเสื้อสมุทรลักพาไปอยู่กินกับนางในถ้ำใต้น้ำ
จนกระทั่งนางได้ให้กำเนิดบุตรชายชื่อ สินสมุทร ซึ่งมีฤทธิ์และความสามารถเหนือมนุษย์ธรรมดา สามารถพาพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อสมุทรไปสู่อิสรภาพได้ขณะว่ายน้ำหนี ได้มีครอบครัวเงือกช่วยพาไปยังเกาะแก้วพิสดาร พระอภัยมณีได้เงือกสาวเป็นชายา และมีบุตรชายชื่อ สุดสาคร การผจญภัยของพระอภัยมณีครั้งต่อไปเป็นการสู้รบกับอุศเรนคู่หมั้นของนางสุวรรณมาลี พอได้รับชัยชนะก็เดินทางไปยังเมืองผลึก และอภิเษกสมรสกับนางสุวรรณมาลี นางละเวงขึ้นครองเมืองลังกาและคิดทำศึกกับเมืองผลึก นางใช้ไสยศาสตร์เป็นอาวุธทำให้พระอภัยมณีคลุ้มคลั่ง และถูกนางละเวงหลอกไปจนถึงเมืองลังกา ต่อมา พระอภัยมณีเบื่อหน่ายการใช้ชีวิตทางโลก จึงออกบวชเป็นฤาษี นางสุวรรณมาลีกับนางละเวงก็ออกบวชเป็นชี ส่วนสินสมุทรได้ครองเมืองผลึก และสุดสาครได้ครองเมืองลังกา
จุดเด่น : ให้ความรู้และขยายโลกทัศน์เกี่ยวกับสงคราม ทั้งสงครามที่สู้กันด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ และการใช้เสียงปี่
แหล่งที่มา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น